19/08/2568

เว็บไซต์และบริการต่าง ๆ สามารถตรวจจับการใช้งาน VPN ของเราได้อย่างไร

เว็บไซต์และบริการต่าง ๆ สามารถตรวจจับการใช้งาน VPN ของเราได้ แม้ว่า VPN จะช่วยในการปกปิดตัวตนได้ แต่ก็มีหลายวิธีที่เว็บไซต์สามารถตรวจจับได้ว่าเรากำลังใช้งาน VPN อยู่




1. ตรวจสอบจาก IP Address:

แม้ว่า VPN จะปกปิด IP Address ที่แท้จริงของเรา แต่ IP Address ของเซิร์ฟเวอร์ VPN นั้นเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป บริษัทต่าง ๆ มักมีรายการ IP Address ที่เชื่อมโยงกับบริการ VPN (blacklist) การเข้าเว็บไซต์ด้วย IP Address เหล่านี้จะทำให้ระบบสามารถระบุได้ทันทีว่ามีการใช้ VPN และการที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากใช้ IP Address เดียวกันพร้อมกันก็เป็นที่น่าสงสัย


2. ข้อมูลจากเบราว์เซอร์:

ข้อมูลบางส่วนที่อยู่ในคอมพิวเตอร์สามารถเปิดเผยตำแหน่งที่แท้จริงได้

  • การตั้งค่าภาษาและเขตเวลา: หากมีการตั้งค่าเป็นภาษาไทย แต่ IP Address มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา จึงไม่สอดคล้องกัน

  • คุกกี้ (Cookies): ไฟล์ขนาดเล็กที่เว็บไซต์จัดเก็บไว้ อาจมีข้อมูลตำแหน่งที่แท้จริงของเราบันทึกอยู่

  • Browser Fingerprinting: เว็บไซต์สามารถระบุเอกลักษณ์เฉพาะของเบราว์เซอร์ได้จากข้อมูลต่าง ๆ (เช่น รุ่นของเบราว์เซอร์, ส่วนขยายที่ติดตั้ง) ทำให้สามารถติดตามได้แม้จะมีการเปลี่ยนแปลง IP Address

3. การรั่วไหลของข้อมูล:

ในบางกรณี VPN อาจมีช่องโหว่ที่ทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ เช่น:

  • DNS Leak: เมื่อเบราว์เซอร์ส่งคำขอ DNS เพื่อสอบถาม IP Address ของเว็บไซต์ ออกไปนอกอุโมงค์ VPN ทำให้ตำแหน่งที่แท้จริงรั่วไหล

  • WebRTC Leak: เป็นเทคโนโลยีในเบราว์เซอร์ที่อาจทำให้ IP Address ที่แท้จริงหลุดรอดจาก VPN ได้

  • Kill Switch ไม่ทำงาน: หากการเชื่อมต่อ VPN หลุด และระบบตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอัตโนมัติ (Kill Switch) ทำงานผิดพลาด IP Address ที่แท้จริงจะถูกเปิดเผยชั่วขณะ

4. พฤติกรรมการใช้งาน:

เว็บไซต์สามารถสังเกตการณ์จากพฤติกรรมที่ไม่ปกติได้ 

  • ตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว: การที่ตำแหน่งการเข้าถึงเปลี่ยนจากประเทศไทยไปยังประเทศอื่นภายในเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางกายภาพ

  • ข้อมูลไม่ตรงกัน: การทำรายการด้วยบัตรเครดิตที่ออกในประเทศไทย แต่ดำเนินการจาก IP Address ในประเทศอื่น


ที่มา: https://www.howtogeek.com/this-is-how-they-know-youre-using-a-vpn/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น