บังคับคดีเสร็จแล้ว จะร้องสอดเข้ามาในชั้นบังคับคดีไม่ได้ ต้องไปฟ้องใหม่ต่างหาก

ผู้รองไม่ใช่คู่ความในคดีอ้างว่ามีสิทธิครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาท และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการบังคับคดีโดยไม่ชอบ ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการบังคับคดีและมีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท มีลักษณะเป็นการร้องสอดเข้ามาในชั้นบังคับคดีตามิปวิพ.ม. 57(1) เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยส่งมอบที่ดินพิพาทให้แก่กองมรดกเจ้าของที่ดินพิพาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตั้งแต่ก่อนที่ผู้ร้องยื่นคำร้องนี้ การบังคับคดีของโจทก์ในส่วนที่ดินพิพาทเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ความจำเป็นที่ผู้ร้องสอดจะรัองสอดเข้ามาในชั้นบังคับคดีเพื่อให้ได้รับการรับรอง คุ้มครอง หรือบังคับตามสิทธิของผู้ร้องที่มีอยู่ย่อมหมดไป ไม่ชอบที่จะร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความอีกได้ แต่ผู้ร้องต้องว่ากล่าวเป็นคดีใหม่ต่างหาก จากคดีนี้ 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3190-3191/2565

ร้องสอดเพราะมีคนไปขอเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนเพราะได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ เป็นการร้องสอดตามปวิพ 57(1)

ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ได้นำคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องไปแสดงต่อเจ้าพนักงานที่ดินเพื่อดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนเป็นชื่อผู้ร้อง ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการในชั้นบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง หากเจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการให้ย่อมจะเกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องสอด ถือได้ว่าผู้ร้องสอดเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งและถูกโต้แย้งสิทธิที่จะร้องขอเข้ามาในชั้นบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ตาม ปวิพ ม. 57(1)

ผู้ร้องนำคำสั่งศาลไปจดทะเบียนที่ดินให้ผู้ร้องถือกรรมสิทธิ์ตาม ปพพ. ม. 1382 แต่เป็นการดำเนินการภายหลังจากที่กรมสรรพากรผู้ร้องสอดได้ยึดที่ดินพิพาทไว้แล้วตามประมวลรัษฎากร อันมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าการจดทะเบียนที่ดินชอบหรือไม่ ศาลชั้นต้นชอบที่จะรับคำร้องของผู้ร้องสอดไว้เพื่อดำเนินการไต่สวน และวินิจฉัยถึงข้อโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องสอดในชั้นบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2565