ผู้ร้องยื่นคำร้องขออนุญาตให้ผู้ร้องทำนิติกรรมขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในส่วนของผู้เยาว์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาของผู้เยาว์ แต่มีปัญหาจากโรคระบาดโควิดทำให้รายได้ลดลง และประสงค์จะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เนื่องจากไกลจากสถานศึกษาและเป็นภาระในการบำรุงรักษา โดยขายสูงกว่าราคาประเมิน
ศาลชั้นต้นประกาศนัดไต่สวนแล้วไม่มีผู้ใดคัดค้าน แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า การขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งอนาคตของผู้เยาว์และได้ราคาสูงกว่าราคาประเมิน เป็นเหตุผลเพียงพอที่ศาลจะอนุญาตให้มีการขายได้โดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของผู้เยาว์โดยแท้ แม้การทำนิติกรรมไม่ได้รับความยินยอมจากมารดาผู้เยาว์ แต่มารดาผู้เยาว์ไม่ได้ดูแลผู้เยาว์และไม่อาจติดต่อได้ ส่วนที่ว่าไม่มีเรื่องเร่งด่วนหรือเหตุฉุกเฉินก็ไม่ใช่เหตุที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574 กำหนดไว้ การรอให้ผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะและตัดสินใจเองก็ขัดต่อเจตนารมณ์ มาตรา 1574 ที่ศาลกำกับดูแลการทำนิติกรรมไม่ใช่ปล่อยให้ช่วงเวลาที่ยังเป็นผู้เยาว์เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์จนเมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วค่อยมาดำเนินการ กรณีมีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะอนุญาตให้ผู้ร้องทำนิติกรรมขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในส่วนของผู้เยาว์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2567
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น