ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยส่งหมายแจ้งวันนัดให้จำเลยทางไปรษณีย์ตอบรับ ปรากฏว่าไม่สามารถส่งให้แก่จำเลยได้เพราะจำเลยย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่ แต่เจ้าหน้าที่ศาลกับรายงานว่าส่งใหม่นัดฟังคำพิพากษาให้แก่จำเลยได้ทางไปรษณีย์ตอบรับ เมื่อถึงวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยและต่อมาได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลย การที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยที่ยังไม่สามารถส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทราบโดยชอบเป็นการดำเนินการพิจารณาที่ผิดระเบียบ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 182 วรรคสาม คู่ความฝ่ายที่เสียหายย่อมยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องให้ศาลสั่งเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นหรือสั่งแก้ไขหรือมีคำสั่งในเรื่องนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ศาลเห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคหนึ่งและวรรคสอง
ภายหลังจากศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ปรากฏว่าได้มีการยื่นใบแต่ง ป. เป็นทนายความจำเลยต่อศาลชั้นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่งานเก็บสำนวนลงรับในวันเดียวกัน โดยไม่ปรากฏว่า ป. ขอตรวจสำนวนหรือดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆในคดีนี้ ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ป. ทราบว่ามีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังโดยมิชอบ อันจะถือว่า ป. ได้ทราบถึงการพิจารณาที่ผิดระเบียบ เช่นนี้ถือไม่ได้ว่า ป. จำเลยทราบถึงการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้น
ภายหลังจากจำเลยถูกจับ จำเลยแต่งตั้ง ว. เป็นทนายความ ว. ตรวจดูสำนวนพบการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบและได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบในวันเดียวกัน ถือว่าจำเลยรู้ถึงข้อค้านเรื่องผิดระเบียบและยกขึ้นกล่าวไม่ช้ากว่า 8 วันนับแต่จำเลยได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้นแล้ว ทั้งม่ปรากฏว่าระหว่างนั้นจำเลยได้ดำเนินการอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้ทราบเรื่องผิดระเบียบ กรณีมีเหตุเพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2567
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น