11/01/2567

เจ้าของที่ดินยินยอมให้อยู่ในที่ดินโดยชอบตั้งแต่แรก แม้ภายหลัง ศาลพิพากษาให้ขับไล่ ไม่ผิดฐานบุกรุก คนที่อาศัยสิทธิเข้ามาช่วยไถดินก็ไม่ผิดฐานบุกรุก แค่ไถดินก็ไม่ผิดทำให้เสียทรัพย์

เจ้าของที่ดินยินยอมให้จำเลยทั้ง 3 อยู่ในที่ดินพิพาท แม้ก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ 3 ยกบ้านให้ ก. แล้วย้ายออกไปอยู่ที่อื่น จำเลยที่ 1 และที่ 2 ก็ยังคงอยู่ในที่พิพาทตลอดมา อันเป็นการอยู่ในที่ดินโดยชอบมาตั้งแต่แรกแม้ภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่ออกจากที่ดินพิพาทแล้ว ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการเข้าไปกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์โดยปกติสุข ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก ปอ.มาตรา 362

แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 3 ซึ่งไม่ได้อยู่ในที่ดินพิพาทแล้ว แต่วันเกิดเหตุนำรถแทรกเตอร์เข้ามายังที่ดินพิพาทเพื่อช่วยจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไถดินอันเป็นการเข้ามาโดยอาศัยสิทธิของจำเลยที่ 1 และที่ 2   จำเลยที่ 3 จึงไม่มีความผิดฐานบุกรุกเช่นเดียวกัน ที่ดินพิพาทที่ถูกรถแทรกเตอร์ไถดันเพียงมีลักษณะโล่งเตียน ไม่ปรากฏว่าเป็นหลุมหรือแอ่งลึก ก่อนเกิดเหตุมีหญ้าและวัชพืชขึ้นรกทั่วแปลง การที่จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันใช้รถแทรกเตอร์ไถดิน มีผลให้หน้าดินบางส่วนต้องถูกไถออกไปบ้างเป็นธรรมดา มิใช่เป็นการทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า อันจะเป็นความผิดทำให้เสียทรัพย์ การกระทำของจำเลยทั้ง 3 ไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามปอ.มาตรา 358 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2991/2565

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น