05/07/2557

ศาลยุติธรรมสั่งรื้อศาลพระภูมิ

          ถนนทางเข้าทางออกที่ดินบ้านเราที่ซื้อมาจากบริษัทนายทุนจัดสรรที่ดินแบ่งขาย ถือเป็นสาธารณูปโภคของโครงการจัดสรรเพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่เข้ามาจับจองซื้อที่ดินตามสัญญาที่ได้ให้ไว้ ถึงแม้จะเป็นเจ้าของโครงการเองก็ไม่สามารถมาทำให้ทางอันเป็นสาธารณูปโภคนี้เสื่อมประโยชน์ในการใช้เป็นทางเข้าออกที่ดินของเราได้

ศาลพระภูมิ


          เรื่องก็มีอยู่ว่า จำเลยเป็นบริษัทซึ่งดำเนินโครงการจัดสรรที่ดินแบ่งขายให้บุคคลทั่วไปเข้าซื้อจับจองเป็นเจ้าของ โดยแบ่งที่ดินเป็นสัดส่วนมีถนนตัดผ่านตามแผนผังที่แนบท้ายไว้กับสัญญา โจทก์เห็นดังนั้นก็เข้าทำสัญญาซื้อขายกันเสร็จสรรพเรียบร้อย ต่อมาจำเลยได้ก่อสร้างศาลพระภูมิอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโครงการ แต่จำเลยดันไปสร้างขวางทางเข้าออกหน้าบ้านของโจทก์แม้จะไม่ถึงกับเข้าออกไม่ได้แต่ก็ไม่สะดวกสบายเหมือนแต่ก่อน โจทก์เข้าออกบ้านลำบาก  เดือดเนื้อร้อนใจไม่รู้จะไปพึ่งใคร ครั้นจะไปพึ่งบารมีศาลพระภูมิหน้าบ้านตัวเองก็ไม่หายเดือดร้อนอยู่ดี โจทก์จึงเอาเรื่องมาพึ่งบารมีศาลยุติธรรมขอให้รื้อศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่บนแท่นปูนที่ขวางทางเข้าบ้านของตนออกพร้อมทั้งเรียกค่าเสียหาย โจทก์จำเลยสู้กันถึงศาลสูงสุด ศาลฎีกาจึงพิพากษาตัดสินว่า ทางเข้าออกหน้าบ้านโจทก์ถือเป็นสาธารณูปโภคของโครงการตามพ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 แม้นว่าจำเลยจะเป็นเจ้าของโครงการที่ดินจัดสรรก็ไม่อาจจะมาทำให้ทางดังกล่าวเสื่อมประโยชน์ในการใช้งานของโจทก์ได้ จึงสั่งให้จำเลยรื้อศาลพระภูมิพร้อมแท่นปูนออก ดังคำพิพากษาศาลฎีกานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  4648/2555
          โจทก์ทั้งสองฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนแท่นคอนกรีตและขนย้ายหินออกจากถนนหน้าอาคารเลขที่ 125/6 และ 125/7 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 3,500 บาท พร้อมค่าเสียหาย วันละ 500 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองรื้อถอนแท่นคอนกรีตและขนย้ายหินออกจากถนนแก่โจทก์ที่ 2 และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 70,000 บาท และค่าเสียหายวันละ 10,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะรื้อถอนแท่นคอนกรีตและขนย้ายหินออกจากถนนเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง
          จำเลยทั้งสองให้การและแก้ไขคำให้การ ขอให้ยกฟ้อง
          ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 รื้อถอนแท่นคอนกรีตและศาลพระภูมิออกจากถนนหน้าอาคารเลขที่ 125/6 และ 125/7 แขวงบางแคเหนือเขตบางแค กรุงเทพมหานคร คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ยกฟ้องโจทก์ที่ 1 ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
          โจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
          ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนแท่นคอนกรีตและศาลพระภูมิออกจากถนนหน้าอาคารเลขที่ 125/6 และ 125/7 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ทั้งสองศาลแทนโจทก์ทั้งสอง โดยกำหนด ค่าทนายความรวม 12,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
          จำเลยทั้งสองฎีกา
          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในการแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงย่อยแล้วนำออกขายตามโครงการตรีจุฑา ได้ระบุแผนผังแนบท้ายกับสัญญาซื้อขายให้แก่ผู้ซื้อที่ดินในโครงการว่า มีรูปถนนดังแผนผังแนบท้ายโฉนด จากนั้นผู้ดำเนินโครงการได้ทยอยแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงย่อย คราวละไม่เกิน 9 แปลง ทำให้ไม่ตกอยู่ในบังคับของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ก็ตาม แต่ก็เป็นการจัดสรรที่ดิน อันทำให้ถนนที่พิพาทเป็นสาธารณูปโภคตามผลในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 แล้ว แม้ต่อมาจะมีพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว แต่มาตรา 69 ก็บัญญัติให้ถือว่าการจัดสรรที่ดินตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 เป็นการจัดสรรที่ดินตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ด้วย ดังนั้น ถนนพิพาทจึงเป็นสาธารณูปโภคแก่ที่ดินในโครงการจัดสรรดังกล่าว จำเลยทั้งสองไม่อาจกระทำการใดอันทำให้เสื่อมต่อสิทธิของเจ้าของที่ดินในโครงการในอันที่จะใช้ถนนดังกล่าว ที่จำเลยทั้งสองอ้างว่า การก่อสร้างแท่นคอนกรีตตั้งศาลพระภูมิ ไม่ได้กีดขวางการใช้ถนนของโจทก์ แต่ก็เป็นการทำให้สาธารณูปโภคของโครงการจัดสรรเสื่อมประโยชน์ในการใช้งานลง จึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ที่ศาลล่างทั้งสองให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนแท่นคอนกรีตดังกล่าวจึงชอบแล้ว
          จำเลยทั้งสองก่อสร้างแท่นคอนกรีตเป็นฐานตั้งศาลพระภูมิ ขอให้รื้อถอนแท่นคอนกรีตออกไปจากถนนพิพาท จึงมีความหมายว่าขอให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เพื่อให้ถนนกลับมามีสภาพดังเดิม การรื้อถอนแท่นคอนกรีตจึงมีความหมายถึงสิ่งที่ติดตั้งอยู่บนแท่นคอนกรีตซึ่งหมายความรวมถึงศาลพระภูมิด้วย คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองชอบแล้ว หาเป็นการพิพากษาเกินคำขอไม่
          พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าทนายความในชั้นฎีกาแทนโจทก์ทั้งสองจำนวน 10,000 บาท

          แหม่ ระหว่างที่สู้กันในศาลฎีกานี้ จำเลยยังบอกศาลให้โจทก์รื้อศาลพระภูมิเองเพราะกลัวอาถรรพ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย แต่ศาลก็ไม่ได้สั่งตามที่จำเลยบอกแต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น