เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ สภ.เมืองลำปาง พล.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่องศรี ผบก.ภ.จ.ลำปาง พ.ต.อ.ฐนกร คุ้มวงค์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง และ พ.ต.ท โสภณ ผลกันทา รองผกก.สส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายยุทธนา อุทรักษ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/1 หมู่ 14 ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ เสพยาบ้า และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปาง ที่ จ.205/2555 ลงวันที่ 20 ต.ค. 2555 พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อสตาเลี่ยน สีดำ ทะเบียน จนฉ 766 เชียงใหม่และโทรศัพท์มือถือ
พล.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่องศรี ผบก.ภ.จว.ลำปาง เปิดเผยว่า ประชาชนในเขตพื้นที่ อ.เมือง ร้องเรียนว่าถูกคนร้ายขับ รถจยย.ตามประกบแล้วอ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ และขอตรวจค้นก่อนยึดเอาทรัพย์สิน ทั้งเงิน นาฬิกา สร้อย และของมีค่าอื่นๆ แล้วหลบหนีไป ซึ่งตลอดเดือน ต.ค.นี้ ผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง และนอกจากนั้นยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติด สำหรับประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อถูกผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุ เดินทางมาดูตัวได้ที่ สภ.เมืองลำปาง.
ที่มา ไทยรัฐ
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 145 ผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เจ้าพนักงานผู้ใดได้รับคำสั่งมิให้ปฏิบัติการตามตำแหน่งหน้าที่ต่อไปแล้ว ยังฝ่าฝืนกระทำการใดๆ ในตำแหน่งหน้าที่นั้น ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ในวรรคแรกดุจกัน
มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท
มาตรา 335 ผู้ใดลักทรัพย์
(๑) ในเวลากลางคืน
(๖) โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน
มาตรา 336 ทวิ ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา ๓๓๔ มาตรา ๓๓๕ มาตรา ๓๓๕ ทวิ หรือมาตรา ๓๓๖ โดยแต่งเครื่องแบบทหารหรือตำรวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ กึ่งหนึ่ง
มาตรา 91 เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แต่ไม่ว่าจะมีการเพิ่มโทษ ลดโทษ หรือลดมาตราส่วนโทษด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว โทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกินกำหนดดังต่อไปนี้
(๑) สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสามปี
(๒) ยี่สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีแต่ไม่เกินสิบปี
(๓) ห้าสิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสิบปีขึ้นไป เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
จากการกระทำของผู้ต้องหาที่อ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบนั้น เป็นการแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการ ซึ่งเป็นความผิดฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 145
และการที่ขอตรวจค้นก่อนยึดเอาทรัพย์สิน ทั้งเงิน นาฬิกา สร้อย และของมีค่าอื่นๆ แล้วหลบหนีไปนั้น ตามข้อเท็จจริงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงานและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป ตามมาตรา 335 และ 336 ทวิ
อนึ่ง การการะทำของผู้ต้องหารายนี้ ปรากฎว่าตลอดเดือน ต.ค.นี้ ผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง และยังมีหมายจับในคดียาเสพติดอีกด้วย ซึ่งแต่ละครั้งนั้นถือมีเจตนาการกระทำที่แยกจากกัน จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ตามมาตรา 91
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น