สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาที่ได้ทำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ท่านมีหน้าที่ต้องส่งตัวผู้ต้องหามาพบเจ้าหน้าที่ตามกำหนดนัดตามสัญญา หากท่านไม่ส่งตัวผู้ต้องหาตามกำหนดแล้วก็จะเป็นการผิดสัญญาประกันตัวดังกล่าว จำต้องชดใช้เงินตามสัญญาประกันตัว ซึ่งจำนวนเงินจะต่ำจะสูงก็สุดแล้วแต่ข้อหาที่ผู้ต้องหาได้รับ ซึ่งจำนวนเงินที่ท่านต้องชำระตามสัญญาประกันนี้ ถือเป็นค่าเสียหายที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า ภาษากฎหมายเรีกว่า "เบี้ยปรับ" ซึ่งศาลจะลดจำนวนเงินดังกล่าวลงได้หากเงินเบี้ยปรับนั้นสูงเกินส่วน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
"มาตรา 383 ถ้าเบี้ยปรับที่ริบนั้นสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ ในการที่จะวินิจฉัยว่าสมควรเพียงใดนั้น ท่านให้พิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่แต่เพียงทางได้เสียในเชิงทรัพย์สิน เมื่อได้ใช้เงินตามเบี้ยปรับแล้ว สิทธิเรียกร้องขอลดก็เป็นอันขาดไป"ทีนี้ ศาลจะลดจำนวนเงินตามสัญญาประกันที่ท่านต้องชำระลงอย่างไร ลองดูคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2552
"คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2552 ปัญหาตามฎีกาประการสุดท้ายของจำเลยมีว่า จำเลยต้องรับผิดเต็มตามสัญญาประกันพร้อมดอกเบี้ยหรือไม่ เห็นว่า สัญญาประกันกำหนดให้จำเลยชำระเงิน 50,000 บาท แก่โจทก์ หากจำเลยผิดสัญญาไม่ส่งตัวผู้ต้องหาให้แก่โจทก์ตามกำหนดนัด จึงเป็นข้อตกลงที่กำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าซึ่งมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับหากเห็นว่าสูงเกินส่วน ศาลสามารถลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ โดยพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ต่อมาจำเลยได้ส่งตัวผู้ต้องหาแก่โจทก์จนผู้ต้องหาถูกฟ้องและศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วถือว่าจำเลยมีส่วนช่วยบรรเทาความเสียหาย จึงเห็นสมควรให้จำเลยรับผิดชำระค่าปรับจำนวน 20,000 บาท ในส่วนดอกเบี้ยนั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์มิได้บอกกล่าวกำหนดเวลาให้จำเลยชำระหนี้ก่อนฟ้องคดีนี้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยก่อนฟ้อง คงต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยนับจากวันฟ้องเท่านั้น ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น"
ฉะนั้น หากท่านไปผิดสัญญาอะไรใครเขาไว้ แต่ท่านก็ได้ช่วยเยียวยาความเสียหายที่เขาได้รับแล้ว เบี้ยปรับหรือค่าปรับที่ท่านต้องเสีย ศาลก็อาจเมตตาลดให้ก็ได้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น